หนัง the covenant (2023) หนังใหม่ เต็มเรื่อง ดูหนังฟรี | kubhd.com

หนัง the covenant

หนัง the covenant โลเคชั่นของหนังประเด็นนี้นับว่าแจ่มมากมาย แน่ๆว่าพวกเขาเป็นไปไม่ได้ไปถ่ายทำในสถานที่จริงอยู่แล้ว แม้กระนั้นการเลียนแบบบรรยากาศของอัฟกานิสถานในหนังหัวข้อนี้จัดว่าค่อนข้างจะใช้ได้ทีเดียว ถึงแม้ในความเป็นจริงแล้วในหนังพวกเขาจะถ่ายทำอยู่ในประเทศสเปนเป็นหลัก ส่วนมุมภาพรวมทั้งมุมกล้องถ่ายรูปก็ยังไม่ทิ้งลวดลายของ กาย ริตชี แนวทางต่างๆบางครั้งอาจจะมิได้มีลูกเล่นอะไรมากแค่ไหน แม้กระนั้นมีส่วนสำหรับการช่วยบิวท์อารมณ์และก็บรรยากาศของหนังเอาไว้ภายในจังหวะที่ดี

ยิ่งมาได้เรื่องแสดงที่เป็นมือโปรของ “เจค จิลเลนฮาล” เข้าไปด้วย ยิ่งทำให้หนังเต็มไปด้วยอรรถรสเข้าไปใหญ่ เขามอบการแสดงที่เด็ดขาดสไตล์ของเขา เล่นน้อยแต่ว่าให้ออกมามากมาย ถึงจะมิได้เป็นการแสดงระดับมาสเตอร์พีชอะไร แต่ว่าเขาก็คือนักแสดงหลักที่หามหนังประเด็นนี้เอาไว้ได้อย่างดียิ่ง เหมือนกันกับ “ดาร์ ซาลิม” ที่ไม่กล่าวถึงมิได้เลย จัดว่าบทส่งให้เขาอยู่ไม่น้อย แต่ว่าติดอยู่แรกเตอร์นี้เต็มไปด้วยนานัปการมุมให้น่าตรวจสอบ และก็เขาก็ทำออกมาก้าวหน้า หนัง the covenant ในลักษณะไม่ค่อยพูดต่อยหนัก

เป็นราวกับการจับเงื่อนโชคชะตาของล่ามเขตแดนชาวอัฟกันที่ย้ายฝั่งมาช่วยเหลืออเมริกา เพื่อแลกเปลี่ยนกับการขอวีซ่าหลบภัยในอเมริกา โดยบรรยายผ่านผู้แสดงทหารอเมริกันอย่างนายสิบ John Kinley ที่อยากได้หลุดพ้นจากฝันร้ายและก็ชดเชยหนี้สินชีวิตให้กับ Ahmed ด้วยการช่วยให้เค้ารวมทั้งครอบครัวได้วีซ่าหนีภัยในอเมริกาจากที่คำสัญญาไว้ แต่ว่าวิถีทางนั้นไม่ง่ายเลย อีกทั้งแนวทางการทำให้ถูกตามขั้นตอนย้ายที่อยู่ ไปจนกระทั่งการแอบหนีจากพวกตาลีบันเป้าหมายหัวพวกเค้าทั้งคู่

หนัง the covenant

หนัง the covenant ” อิมแพคต่อหัวใจ

ในขณะที่ทุกคนกำลังพักอย่างสุขสบาย ที่รอบๆสระ โฮเต็ลห้าดาวแห่งหนึ่ง และไม่ทันตั้งตัว ฝันร้ายได้เริ่มขึ้น เมื่อคลื่นสึนามิสึนามิสูงเท่าอาคาร 3 ชั้น พุ่งเข้ากระหน่ำทุกๆอย่างทันควัน ทั้งยังครอบครัวจำต้องจมอยู่ใต้คลื่นสึนามินั้น มาเรีย สามารถรอดชีวิตจากคลื่นสึนามินั้นได้ แม้กระนั้นก็ได้รับเจ็บพอเหมาะพอควร อย่างแรกที่คุณรำลึกถึงเป็นผัว แล้วก็ลูกๆของคุณ ก็เลยได้ออกตามหาลูกๆรวมทั้งผัวของคุณ คุณจำเป็นต้องมานะมีสติรวมทั้งจัดแจงทำใจไว้ล่วงหน้า เพื่อจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น ในคราวนี้

กระนั้นในรูปภาพโดยรวมแล้ว The Equalizer 3 ก็ยังสามารถใช้กลุ่มคำยอดฮิตที่ว่า “ดุเดือดไม่เกรงใจ” ได้อยู่ ด้วยเหตุว่าหนังรู้จักตนเองดีว่าผู้ชมอยากได้มองเห็นอะไร หนัง the covenant ถึงโครงงานบทหนังจะค่อนข้างจะซ้ำซากรวมทั้งเล่นง่ายไปสักหน่อย มีเชิงชั้นได้ไม่ค่อยมากมายซักเท่าไหร่ แต่ว่าความผิวเผินพวกนั้นก็ช่วยทำให้ปรับผู้ชมเสพหนังหัวข้อนี้ได้เต็มอรรถรสความรื่นเริงใจเจริญขึ้นด้วยได้แก่เดียวหนังยังมีงานภาพและก็โลเคชั่นงามๆของอิตาลีให้จูงใจ รวมถึงบทประพันธ์เพลงประกอบของ “มาร์เซโล ซาร์วอส”

ของประเด็นนี้ก็แอบน่าดึงดูดไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลงที่หนักเสียงเบสกับท่าทางแล้วก็เหตุการณ์บู๊หนักแน่นของหนัง มันช่วบบิ้วท์อารมณ์ได้ดิบได้ดี (ถึงจะเสียงดังกระโดดไปบ้างก็เหอะ) ด้วยเหตุนั้น The Equalizer 3 ก็เลยเป็นงานกินเลี้ยงปลดเกษียณของ โรเบิร์ต แมคคอลล์ ที่ยังรสดีใช้ได้ ถึงเครื่องปรุงต่างๆจะยังไม่ถึงนิดนึง แม้กระนั้นมันก็ตอบปัญหาของตนได้อย่าง ดุเดือด!แน่ๆว่าความพิเศษข้อหนึ่งของ The Fabelmans เป็นการเป็นภาพยนตร์ครึ่งชีวประวัติของหนึ่งในผู้กำกับระดับตำนานอย่าง Steven Spielberg

รีวิว BURNING BODY

ซีรีส์ที่สร้างมาจากความจริง โดยผู้ผลิตกล่าวว่าเป็น “การเลียนแบบเรื่องราว” ซึ่งก็อาจจะเพราะว่านักแสดงหลักในเรื่องที่การสังหารถึงแม้ถูกวินิจฉัยมีความผิด แม้กระนั้นก็มิได้เล่าจริงใดๆก็ตามให้แก่สาธารณะชนได้รับทราบ มีแม้กระนั้นคำโกหกที่บอกกล่าวในศาล ทั้งปวงในหัวข้อนี้ก็เลยราวกับการประกอบเรื่องราวที่มาเรื่องราวขึ้นมาใหม่ โดยมิได้เป็นแถวการเล่าเรื่องแบบสารคดี แต่ว่าเป็นในแบบซีรีส์ โดยใช้แนวทางเล่าจากจุดเริ่มแรกที่มีการเผาร่างเหยื่อในรถยนต์ แล้วย้อนกลับไปเล่าในสมัยก่อนนับสิบกว่าปีจนถึงมาถึงปัจจุบันนี้

พร้อมทั้งตัดสลับเหตุไต่สวนในตอนนี้พร้อมกันไปด้วย โดยแนวทางการเรื่องแบบผู้แสดงถูกสืบสาว บางครั้งบางคราวก็เสมือนบอกผ่านกล้องถ่ายภาพตรงๆแบบซีรีส์ ELITE โด่งดังของ Netflix ซึ่งผู้ผลิตประเด็นนี้ Jorge Torregrossa ก็คือผู้กำกับ ELITE ในหลายตอนด้วยด้วยเหมือนกัน ก็เลยมีความคล้ายคลึงในแบบอย่างการเล่าเรื่องออกจะมากมาย

ในความรู้สึกของคนเขียน พวกเรามีความรู้สึกว่า Babylon มีส่วนประกอบหลายส่วนที่คล้ายกับผลงานก่อนหน้าของ Damien Chazelle อย่าง Whiplash และก็ La La Land อยู่พอเหมาะพอควร เริ่มตั้งแต่เรื่องราวของผู้แสดงหลักที่กำลังดิ้นรนดิ้นรนเพื่อไล่หลังความฝันของแต่ละคน จังหวะจะโคนสำหรับเพื่อการพรีเซนเทชั่นที่มีเอกลักษณ์ แล้วก็มีดนตรีประกอบของ Justin Hurwitz (Whiplash, La La Land) ที่เปรียบได้กับตัวกำหนดจังหวะหัวใจของเรื่อง

เวลาที่ Babylon ดูเหมือนสำเร็จงานที่ Damien Chazelle เพียรพยายามอัปสเกลส่วนประกอบเด่นๆของสองเรื่องแรกให้ใหญ่ขึ้น หวือหวาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีลูกบ้ามากขึ้น ทั้งยังในทางสเกลเรื่องราว งานโปรดักชัน แล้วก็ความยาวของภาพยนตร์ที่ยาวถึง 3 ชั่วโมงเศษ ซึ่งในความรู้สึกของคนเขียน ผลงานของ Damien Chazelle ประเด็นนี้มีจุดแข็งหลายแบบที่พวกเราติดอกติดใจมากมายๆแล้วก็ข้อคิดเห็นที่พวกเราแอบเสียดายอยู่อย่างเดียวกัน

หนัง the covenant

รีวิวหนัง Knock at the Cabin หนังตื่นเต้นจาก เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน แปลกและก็หักมุมได้เชิญชวนอ้าปากหวอ

เป็นหนังเรื่องใหม่จากผู้กำกับ เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน ซึ่งหลายท่านคงจะรู้จักดีกับหนังสยองขวัญในตำนานอย่าง The Sixth Sense ที่สร้างความเซอร์ไพรซ์กับผู้ชมได้อย่างยอดเยี่ยม แล้วก็ยังมีเรื่องมีราว Sign, Split, Unbreakable ที่เป็นหนังที่เขาดูแลออกมาก้าวหน้ามากมายเช่นเดียวกัน โดยหนังเรื่องใหม่ของเขาประเด็นนี้ก็มาด้วยแนวตื่นเต้นลึกลับ เรื่องย่อของหนังก็กล่าวถึงเรื่องราวของคนที่ไม่รู้จักทั้งยัง 4 ผู้ที่ได้บุกในบ้านของครอบครัวหนึ่งเพื่อกล่าวว่าพวกเขาจึงควรเอื้อเฟื้อชีวิตผู้ใดผู้หนึ่งในครอบครัวเพื่อจะที่หยุดหายนะวันสิ้นโลกที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้

ซึ่งภาพยนตร์ได้บอกเล่าเรื่องราวทั้งยังความระทึกใจ การสิ้นไป และก็การช่วยเหลือเกื้อกูล ที่นักแสดงแสดงออกมาได้อย่างอบอุ่นรวมทั้งลุ้นตามได้หลายอารมณ์รวมทั้งความรู้สึกซึ่งThe Impossible 2004 สีนามิ จังหวัดภูเก็ต ยังคงเป็นภาพจำที่ภาพยนตร์สร้างออกมาได้สะท้อนสถานะการณ์ในวันนั้นได้อย่างพอดี แล้วก็ในการสิ้นไปก็ยังมีเรื่องมีราวของความหมดกำลังใจ ห่อเหี่ยว เรื่องราวของคนเราที่จะต้องพบกับภัยจากธรรมชาติอย่างที่ไม่เคยทราบตัวมาก่อน สะท้อนปัญหาณ ตอนนั้นได้เห็นภาพ พร้อมฉากชอบใจอีกเยอะมากในรูปภาพยนตร์ประเด็นนี้

ฉากที่พวกเราถูกใจมี 2 ฉาก ซึ่งก็คือขณะที่ แมรี แจ็คสัน ขึ้นโรงขึ้นศาลเพื่อร้องทุกข์สิทธิ์ของหญิงผิวสีที่อยากได้เป็นวิศวกร มันแสดงถึงความสู้สุดใจของตัวคุณเอง ส่วนอีกฉาก (พวกเราหาคลิปไม่พบ) เป็นฉากที่ แฮร์ริสัน หัวหน้าของแคทเธอรีน หนัง the covenant เอาป้ายส้วมออกเพื่อชาวผิวสีกับคนขาวใช้ห้องสุขาด้วยกันได้ และก็ยังกล่าวว่า ” นาซ่าพวกเราฉี่เป็นสีเดียวกัน ” มันแสดงถึงความทัดเทียมของสีผิว มันทำให้พวกเราหัวใจฟูแบบมากมาย เพราะว่าพวกเราไม่สมควรที่จะแยกอะไรหรือพวกเราเป็นอะไรนั่นก็คือตัวเราเอง

รีวิว Sitting in Bars with Cake สูตรขนมเค้กสื่อรัก

เล่าราวของ คอรีนน์ กับ เจน ที่เป็นเพื่อนรักกัน โดยที่เจนเป็นหญิงสาวขวยเขิน แสนจะปกติ ที่เผลอไผลแล้วก็มีพรสวรรค์สำหรับเพื่อการประดิษฐ์เค้กออกมาด้วยสูตรอันน่าทึ่งของตนเสมอ ด้วยเหตุนี้คอรีนน์ก็เลยชักจูงแล้วก็เสนอให้เจนรับโปรเจกต์ทำขนมเค้กหน้าสดใหม่ออกมาตลอดตรงเวลา 1 ปี เพื่อนำไปเลี้ยงพบปะกันที่บาร์ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อการเสาะหาการพบปะผู้คนรวมทั้งปรับปรุงความเชื่อมั่นในตัวเองให้กับเจน

มาผนึกกำลังกับ “ทริช เซ” ผู้กำกับหญิงจาก Pitch Perfect 3 คำตอบที่ออกมาก็นับว่า Sitting in Bars with Cake เป็นหนังชีวิตที่เต็มไปด้วยรสที่เพียรพยายามกัดรับประทานเข้าไปถึงแก่นแท้ของคำว่าชีวิตได้อย่างเกินการคาดการณ์ ถึงแม้การร้อยเรียงของหนังจะมองจืดชืดๆไปบ้าง แต่ว่าโชคดีที่หนังมีข้อความสำคัญแล้วก็ส่วนประกอบของเรื่องที่ค่อนข้างจะแข็งแรง

มันบางครั้งอาจจะไม่ใช่หนังดราม่าที่มีเป้าหมายมาทำให้ผู้ชมจำต้องฟูมฟายในส่วนท้าย แต่ว่าจังหวะเบาๆของหนังก็รอเติมแต่งเรื่องการดำรงชีวิตบนปัญหาที่อยากได้ต่อสู้ รวมถึงก็ไขว่คว้าจังหวะ betflixus สำหรับเพื่อการพิสูจน์ตัว กระเทาะเปลือกออกมาจากกรอบเดิมๆที่เต็มไปด้วยความคิดริเริ่มสร้างสรรค์แล้วก็มุมมองที่งาม นี่ก็เลยเป็นหนังที่ให้กำลังใจก้าวหน้าระดับหนึ่ง รวมทั้งเติมเต็มอารมณ์ให้กับผู้ชมได้โอกาสละเรื่อย

โดยหนังประเด็นนี้สร้างขึ้นมาจากตำราสอนทำอาหารของ “ออเดรย์ ยกลแมน” ที่เป็นเลิศในหนังสือจำพวกนี้ที่ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่ารวมทั้งเป็นที่นิยมชั่วกัลปวสานเล่มหนึ่ง ซึ่งในหนังหัวข้อนี้คุณก็ถือเอาประสบการณ์และก็เอามาร้อยเรียงเขียนบทหนังด้วยตัวเองอีกด้วย ก่อนหน้านี้คุณเคยเขียนบทหนังหนังรักเชยๆทางโทรทัศน์มาบ้างห่างๆ แม้กระนั้นคราวนี้ถือได้ว่าเป็นการถือเอาผลงานตนเองมาดัดแปลงด้วยตัวเอง

Review: Jake Gyllenhaal Shines in Guy Ritchie's The Covenant

รีวิวหนัง “Phases of the Moon กำเนิดจำนวนกี่ครั้งก็ยังเป็นคุณ” ความท้าที่จัดครึ่งหนึ่งอยู่ระหว่างกึ่งกลาง

แล้วก็นี่เป็นอีกหนึ่งหนังที่มาพร้อมด้วยพล็อตสไตล์คนระลึกชาติ แตตอนนี้มาในคราบเปื้อนของหนังประเทศญี่ปุ่น ที่นับว่าเป็นหนังอีกหนึ่งตัวเอกด้านรางวัลต่างๆในปีที่ล่วงเลยไปของประเทศญี่ปุ่น นี่เป็น “Phases of the Moon กำเนิดจำนวนกี่ครั้งก็ยังเป็นคุณ” ที่ไม่รู้จักจะกำหนดองค์ประกอบของหนังประเด็นนี้เอาไว้ว่ายังไงดี เนื่องจากมันอีกทั้งส่วนประกอบของความดราม่า ความโรแมนติก ความอบอุ่นแบบครอบครัว และก็ความแฟนตาซีที่พาไปสุดขั้วกับแนวความคิดที่เพียรพยายามดำเนินการกับผู้ชมอย่างมาก ไตร่ตรองออกมาเป็นหนังที่เต็มไปด้วยความท้าตลอดทั้ง 2 ชั่วโมงของหัวข้อนี้

เสมือนเป็นการไล่หลังหาส่วนประกอบที่จะมาใช้เพื่อการทำขนมเค้กคนใหม่ๆที่เต็มไปด้วยไอเดียมากไม่น้อยเลยทีเดียว หนัง the covenant รวมทั้งรสที่ไม่มีวันคาดหวังออกได้จะออกมาคืออะไร มันเป็นเครื่องหมายที่ถูกจับเอามาใส่เป็นส่วนประกอบในหนังได้ค่อนข้างจะเหมาะเหม็งพอดี แล้วก็บทหนังก็เบาๆพาไปตรวจสอบความเกี่ยวเนื่องกับความสัมพันธ์ระหว่างผู้แสดงหลักอีกทั้ง 2 คนได้อย่างสนิทแน่นเพิ่มขึ้นเรื่อย

“ยารา ชาฮิดี” กับ “โอเดสซา อาซีออง” มอบการแสดงที่น่าประทับใจได้ดิบได้ดี พวกคุณเข้ากันรวมทั้งรับส่งจังหวะการแสดงให้กันและกันได้อย่างพอดี ประหนึ่งว่าพวกคุณเป็นเพื่อนกันมานานมากปีแล้ว โดยยิ่งไปกว่านั้นซีนอารมณ์ต่างๆที่มีให้พวกคุณได้จัดแจงในหนังประเด็นนี้ ที่ถือเป็นการถ่ายทอดแบบง่ายๆแต่ว่าเต็มไปด้วยการส่งต่อที่ทรงอำนาจมาถึงผู้ชมเจริญ